Canada
ประเทศแคนาดา เป็นประเทศที่มีพื้นที่ใหญ่เป็นอันดับสองของโลก มีประชากรประมาณ 30 กว่าล้านคน ซึ่งถือว่าน้อยมากเมื่อเทียบกับพื้นที่ของประเทศ ชาวแคนาดาส่วนใหญ่เป็นผู้อพยพมาจาก อังกฤษ ฝรั่งเศส เยอรมนี โปแลนด์ ยูเครน อิตาลี แอฟริกา ตะวันออกกลาง อเมริกาใต้ อินเดีย และเอเชีย ทำให้สังคมของชาวแคนาดาเป็นสังคมของวัฒนธรรมผสมผสาน โดยประชากรส่วนใหญ่ใช้ภาษาอังกฤษ ยกเว้นที่มณฑลควิเบคที่ประชากรส่วนใหญ่ใช้ภาษาฝรั่งเศส ทำให้แคนาดาเป็นประเทศที่มีภาษาราชการ 2 ภาษา คือ ภาษาอังกฤษ และ ภาษาฝรั่งเศส
ประเทศแคนาดา ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของประเทศสหรัฐอเมริกา โดยมีพื้นที่ทางฝั่งตะวันตกติดกับมหาสมุทรแปซิฟิก ฝั่งตะวันออกติดกับมหาสมุทรแอตแลนติค มีเมืองหลวงชื่อออตตาวา มีระบบการปกครองเป็นแบบประชาธิปไตยแบบมีรัฐสภา โดยมีนายกรัฐมนตรีเป็นประมุขสูงสุดทางด้านบริหาร ประชาชนเป็นผู้เลือกผู้แทนของตนเอง โดยพรรคที่มีเสียงส่วนใหญ่จะมีหน้าที่ในการจัดตั้งรัฐบาล ระบบการปกครองของแคนาดามีความมั่นคงมากไม่ค่อยมีการเดินขบวนหรือใช้ความรุนแรง ประเทศแคนาดาประกอบด้วย 10 มณฑล และ 3 อาณานิคม ได้แก่
1. มณฑลบริติชโคลัมเบีย (British Columbia) เป็นมณฑลตั้งอยู่ทางตะวันตกของแคนาดา มีชายฝั่งทะเลที่งดงามคล้ายฟยอร์ด พื้นที่เป็นภูเขาใหญ่น้อย มีเมืองหลวงคือ วิคตอเรีย และเมืองที่สำคัญและเป็นที่รู้จัก คือเมืองแวนคูเวอร์ ซึ่งเป็นเมืองที่มีอากาศอบอุ่นที่สุด
2. มณฑลอัลเบอร์ตา (Alberta) มีเมืองหลวง คือ เอดมินตัน มีดอกกุหลาบป่าเป็นสัญลักษณ์ของมณฑล นอกจากนี้ยังเป็นถิ่นกำเนิดของเทือกเขา ร็อกกี้ มีทรัพยากรธรรมชาติ คือ น้ำมันดิบ ก๊าซธรรมชาติ ป่าไม้ เป็นต้น
3. มณฑลซัสแคทเชวัน (Saskatchewan) มีเมืองหลวง คือ เรจินา เป็นมณฑลที่เต็มไปด้วยป่าไม้และทุ่งหญ้าแพร์รี่ บางส่วนเป็นทะเลสาบที่มีน้ำใสสะอาด ซัสแคทเชวัน ได้ชื่อว่าเป็น ตะกร้าขนมปังของแคนาดา เพราะเป็นแหล่งที่ปลูกข้าวสาลี ข้าวฟ่าง และข้าวไรย์
4. มณฑลมานิโตบา (Manitoba) มีเมืองหลวง คือ วินนิเป็ก เป็นมณฑลที่อยู่ตรงกลางของประเทศ พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นทะเลสาบ จนได้ชื่อว่า Land of 100,000 lakes มณฑลนี้เป็นแหล่งผลิตไฟฟ้าพลังน้ำ ทางตอนเหนือปกคลุมด้วยน้ำแข็งและป่าไม้ นอกจากนี้ยังมีการทำเหมืองแร่ที่สำคัญ คือ ทองแดง สังกะสี และนิกเกิล
5. มณฑลออนตาริโอ (Ontario) มีเมืองหลวง คือ โตรอนโต และยังเป็นมณฑลที่เป็นที่ตั้งของเมืองหลวงของประเทศแคนาดา คือ เมืองออตตาวา เป็นมณฑลที่เป็นศูนย์กลางทางด้านการเงิน และอุตสาหกรรมเหมืองแร่ที่สำคัญของประเทศรวมถึงเป็นที่ตั้งขององค์กรสำคัญๆของประเทศและบริษัทใหญ่ๆของแคนาดา
6. มณฑลควิเบค (Quebec) เป็นมณฑลที่มีพื้นที่ใหญ่ที่สุดของมณฑลทั้งหมดของประเทศแคนาดา มีเมืองหลวง คือ มอลทรีออล โดยประชากรส่วนใหญ่มีเชื้อสายฝรั่งเศส ดังนั้นภาษาที่ใช้จึงเป็นภาษาอังกฤษและฝรั่งเศส มณฑลนี้ล้อมรอบด้วยน้ำเกือบทั้งหมด
7. มณฑลนิวฟาวแลนด์ (Newfoundland) มณฑลนี้ตั้งอยู่ทางฝั่งตะวันออกสุดของประเทศ มีเมืองหลวง คือเซนต์จอห์น
8. มณฑลโนวาสโกเทีย (Nova Scotia) มีเมืองหลวงคือ ฮาลิเฟ็กซ์
9.มณฑลพรินส์ เอ็ดเวิร์ด ไอร์แลนด์ (Prince Edward Island) เป็นมณฑลที่มีขนาดเล็กที่สุดของแคนาดา มีเมืองหลวง คือ ชาร์ลอตต์ทาวน์
10.มณฑลนิว บรันสวิก (New Brunswick) มณฑลนี้เป็นมณฑลที่มีน้ำทั้งสามด้าน เป็นที่ตั้งของอ่าวฟันดี (Bay of Fundy) ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นอ่าวที่มีคลื่นสูงที่สุดในโลก มีเมืองหลวง คือ เฟรเดริคตัน (Fredericton)
และ 3 อาณานิคม ซึ่งมีประชากรอาศัยอยู่น้อยมาก คือ
1. นอร์ธเวสต์ (Northwest Territories) มีเมืองหลวง คือ เยลโลไนฟ์ (Yellow Knife) ที่นี่ในช่วงฤดูร้อนกลางวันจะยาวกว่ากลางคืนมาก จนพระอาทิตย์แทบจะไม่เคยลับขอบฟ้า ส่วนในฤดูหนาวจะตรงข้าม คือ มืดจนไม่มีกลางวัน
2. ยูคอน (Yukon Territories) มีเมืองหลวง คือ ไวท์ฮอร์ส (Whitehorse) ในช่วงฤดูร้อนพระอาทิตย์จะไม่เคยหลับ จนได้ชื่อว่า Midnight Sun หรือดินแดนแห่งพระอาทิตย์เที่ยงคืน
3. มณฑลนูนาวูท (Nunavut) มีเมืองหลวง คือ อิคคาลูอิท (Iqaluit) เป็นมณฑลใหม่ที่แยกมาจากนอร์ธเวสต์ จึงมีภูมิอากาศ คล้ายกับนอร์ธเวสต์
สภาพภูมิอากาศและฤดูกาล
ประเทศแคนาดามีภูมิอากาศ 4 ฤดูกาล คือ ฤดูใบไม้ผลิ ฤดูใบไม้ร่วง ฤดูหนาว และ ฤดูร้อน โดยในแต่ละฤดูของประเทศแคนาดาจะมีความสวยงามของธรรมชาติแตกต่างกันไป ในบางพื้นที่ของประเทศอุณหภูมิบางครั้งอาจติดลบถึง 25 องศาเซลเซียส จนน้ำแข็งจับตัวเป็นการถาวรแต่ความหนาวในลักษณะนี้จะเกิดในช่วงระยะเวลาสั้นๆในช่วงกลางวันของฤดูร้อนอุณหภูมิประมาณ 35 องศาเซลเซียส หรือร้อนกว่านั้น และในช่วงฤดูใบไม้ผลิ และใบไม้ร่วงจะอยู่ในระดับปานกลาง
ระบบการศึกษา
การศึกษาของประเทศแคนาดาจะอยู่ในความรับผิดชอบของกระทรวงศึกษาธิการของแต่ละมณฑลและเขตการปกครอง ดังนั้นระบบการศึกษาจึงมีความแตกต่างกัน แต่ด้วยความร่วมมือกันด้านวิชาการของคณาจารย์ในแต่ละสถาบันทำให้การศึกษาทั่วทั้งแคนาดามีมาตรฐานสูงในระดับเดียวกัน โดยระบบการศึกษาของแคนาดาประกอบด้วยสถาบันการศึกษาทั้งของรัฐบาลและเอกชน ตั้งแต่ระดับอนุบาลจนถึงในระดับมหาวิทยาลัย โดยมาตรฐานการศึกษาเป็นที่ยอมรับทั่วโลก โดยการศึกษาแบ่งเป็น
1. ระดับประถมศึกษา เริ่มจากชั้นอนุบาล 1 2 ปี แล้วตามด้วยระดับประถมศึกษา 1 6
2. ระดับมัธยมศึกษา เริ่มจากมัธยมศึกษาเกรด 7 12 โดยระยะเวลาการศึกษาระดับมัธยมศึกษาจะแตกต่างกันไปในแต่ละมณฑลแต่โดยส่วนใหญ่จะใช้ระยะเวลาในระดับประถมศึกษาและมัธยมศึกษาประมาณ 12 ปี ยกเว้นในมณฑลควิเบค และออนตาริโอจะใช้เวลาประมาณ 13 ปี
3. ระดับอุดมศึกษา ประกอบด้วย มหาวิทยาลัย วิทยาลัย วิทยาลัยชุมชน และสถาบันเทคโนโลยี โดยเปิดสอนในระดับ อนุปริญญาตรี ปริญญาตรี ปริญญาโทและปริญญาเอก
นอกจากนี้ยังมีการศึกษากึ่งวิชาชีพ ซึ่งมุ่งเน้นผลิตนักศึกษาเพื่อเข้าสู่ตลาดแรงงาน โดยจะมีการปรับหลักสูตรตลอดเวลาเพื่อให้สอดคล้องกับระบบเศรษฐกิจและตลาดแรงงาน
การศึกษาในสถาบันสอนภาษา
สถาบันสอนภาษาในประเทศแคนาดา นักเรียนสามารถเลือกเรียนได้ สองภาษา คือ อังกฤษและฝรั่งเศส โดยนักเรียนจะได้เรียนภาษาอังกฤษที่เป็นสำเนียงของทวีปอเมริกาเหนืออย่างแท้จริง ซึ่งนักเรียนสามารถเลือกเรียนได้ทั้งในสถาบันเอกชนหรือเป็นสถาบันสอนภาษาของมหาวิทยาลัย โดยหลักสูตรที่เปิดสอนมีให้เลือกทั้งภาษาอังกฤษที่ใช้ในชีวิตประจำวัน ภาษาอังกฤษสำหรับธุรกิจ หรือภาษาอังกฤษเพื่อการศึกษาต่อ นักเรียนสามารถเลือกเรียนทั้งแบบระยะสั้นและระยะยาว ตั้งแต่ 1 เดือน ถึง 1 ปี
ที่พัก
นักเรียนสามารถเลือกที่พักได้ทั้งที่เป็นที่พักชั่วคราวในระยะสั้นหรือระยะยาว ดังนี้
ที่พักชั่วคราว
* โรงแรม ซึ่งมีอยู่มากมายในแคนาดา โดยจะต้องสำรองที่พักล่วงหน้าซึ่งราคาและคุณภาพแตกต่างกันขึ้นอยู่กับฤดูกาลและขนาดของโรงแรมรวมถึงที่ตั้ง โดยสามารถสำรองที่พักได้โดยตรง หรือผ่านตัวแทนท่องเที่ยว
* ห้องพักเยาวชน เป็นที่พักแบบธรรมดาในเมืองใหญ่ราคาประหยัด โดยใช้เครื่องอำนวยความสะดวกร่วมกัน
ที่พักระยะยาว
* การพักกับครอบครัว (Homestay) เหมาะสำหรับนักเรียนที่ต้องการพัฒนาทักษะทางด้านภาษาอังกฤษ โดยจะได้เรียนรู้ชีวิตประจำวันของชาวแคนาดา
* หอพักในสถานศึกษา โดยส่วนใหญ่ตั้งอยู่ในหรือใกล้กับสถานศึกษา โดยเลือกได้ว่าต้องการพักห้องคู่หรือห้องเดี่ยว ซึ่งจะมีทั้งแบบมีอาหารหรือทำอาหารเอง
* ที่พักนอกสถานศึกษา ได้แก่ บ้านเช่า หรืออพาร์ตเมนต์ ซึ่งนักศึกษาสามารถเลือกได้ โดยส่วนใหญ่ทางสถาบันจะมีศูนย์บริการซึ่งมีรายชื่อของบ้านเช่าที่อยู่ใกล้กับสถานศึกษาไว้บริการผู้ที่สนใจ