Australia
สหพันธรัฐออสเตรเลีย เป็นประเทศที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 6 ของโลก มีลักษณะของประเทศเป็นเกาะ ตั้งอยู่ระหว่างมหาสมุทรอินเดียและมหาสมุทรแปซิฟิก เป็นทวีปที่มีขนาดเล็กที่สุดและมีพื้นที่ที่เป็นที่ราบและกึ่งทะเลทรายมากที่สุด โดยบริเวณตอนกลางของทวีปเป็นพื้นที่ราบกึ่งทะเลทรายแห้งแล้ง ฝั่งตะวันออกเป็นที่ราบสูงและเป็นแนวภูเขาทอดเป็นแนวยาว ซึ่งเป็นฝั่งที่มีประชากรอาศัยอยู่หนาแน่นที่สุด ฝั่งตะวันตกและทางตอนใต้เป็นพื้นที่ที่มีความอุดมสมบูรณ์มากที่สุด มีฝนตกชุก ประเทศออสเตรเลียมีประชากรประมาณ 21 ล้านคน ซึ่งถือว่าน้อยมากเมื่อเทียบกับพื้นที่ของประเทศ ประเทศออสเตรเลียเป็นหนึ่งในประเทศในเครือจักรภพของอังกฤษ โดยประชากรส่วนใหญ่เป็นผู้อพยพมาจากประเทศอังกฤษและไอร์แลนด์ โดยมีชนเผ่าพื้นเมือง คือชาวอะบอริจิน ประเทศออสเตรเลียเป็นประเทศที่มีความสงบสุขที่สุดประเทศหนึ่ง ประเทศออสเตรเลียมีการปกครองระบอบประชาธิปไตยแบบรัฐสภามีนายกรัฐมนตรีเป็นผู้นำฝ่ายบริหาร โดยมีรัฐบาลในแต่ละรัฐเป็นผู้ปกครองกันเอง ประเทศออสเตรเลียมีรายได้จากการทำเหมืองแร่ การเกษตร โดยเป็นผู้ส่งออกขนแกะรายใหญ่ที่สุดของโลกและการศึกษาซึ่งทำให้มีการปรับปรุงหลักสูตรใหม่ๆเพื่อให้เข้ากับตลาดอุตสาหกรรมและแรงงานโดยระบบการศึกษาของประเทศออสเตรเลียเป็นที่ยอมรับในระดับนานาชาติ ประเทศออสเตรเลียประกอบด้วยรัฐใหญ่ 6 รัฐและ 2 เขตปกครองพิเศษ มีเมืองหลวงคือ แคนเบอร์ร่า โดยรัฐทั้งหกประกอบด้วย
1. รัฐนิวเซาท์เวลล์ (New South Wales) เป็นรัฐที่มีประชากรอาศัยอยู่หนาแน่นที่สุด มีเมืองหลวง คือ ซิดนีย์ เป็นเมืองที่มีสีสัน มีชีวิตชีวาและคึกคักที่สุด เป็นเมืองเศรษฐกิจที่สำคัญของประเทศ นอกจากนี้ยังเป็นเมืองใหญ่ที่มีการเติบโตและพัฒนาอย่างรวดเร็ว และเป็นเมืองท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงไปทั่วโลก มีสถาปัตยกรรมที่เป็นที่เลื่องลือไปทั่วโลก เช่น โอเปร่าเฮาส์ และสะพานฮาร์เบอร์ เป็นต้น
2. รัฐวิคตอเรีย (Victoria) เป็นรัฐที่มีประชากรหนาแน่นเป็นอันดับสองและเป็นรัฐที่มีพื้นที่เล็กเป็นอันดับสองตั้งอยู่ทางใต้สุดของแผ่นดินใหญ่ มีเมืองหลวง คือเมลเบิร์น ซึ่งเป็นเมืองเศรษฐกิจที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับสองของประเทศ เป็นเมืองที่เป็นศูนย์กลางทางศิลปะ มีสถาปัตยกรรมในสไตย์ยุโรปที่ยังคงอนุรักษ์ไว้ จึงทำให้เมืที่พักองเมลเบิร์นแตกต่างจากเมืองอื่นๆ นอกจากนี้ยังมีการวางผังเมืองที่ดี ทำให้ง่ายต่อการเดินทาง
3. รัฐทัสมาเนีย (Tasmania) เป็นรัฐเดียวที่เป็นเกาะอยู่ทางใต้ของแผ่นดินใหญ่ เป็นรัฐที่มีฝนตกชุกที่สุด ทำให้มีความอุดมสมบูรณ์ของป่าไม้มากที่สุด มีเมืองหลวง คือโฮบาร์ต เป็นเมืองประวัติศาสตร์ที่มีท่าเรือที่เก่าแก่ มีมรดกยุคสมัยอาณานิคม มีสถาปัตยกรรมที่งดงาม รัฐทัสมาเนีย มีประชากรประมาณ สี่แสนกว่าคน เป็นเมืองที่มีค่าครองชีพถูก และเมืองเงียบสงบ
4. รัฐเซาท์ออสเตรเลีย (South Australia) เป็นเมืองที่มีพื้นที่สามในสี่ส่วนเป็นทะเลทราย มีประชากรอาศัยอยู่อย่างกระจัดกระจาย เป็นรัฐที่มีชื่อเสียงในด้านการผลิตไวน์ของประเทศและมีชื่อเสียงด้านวัฒนธรรมและศิลปะ มีประชากรประมาณ ล้านกว่าคน มีเมืองหลวง คืออะดิเลด ซึ่งเป็นเมืองที่ได้รับสมญานามว่าเป็นนครแห่งศาสนสถานเนื่องจากมีโบสถ์อยู่ทั่วทุกแห่ง
5. รัฐเวสเทิร์นออสเตรเลีย (Western Australia) เป็นรัฐที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของประเทศโดยครอบคลุมพื้นที่ฝั่งตะวันตกเกือบทั้งหมด เป็นรัฐที่มีชื่อเสียงด้านการทำไข่มุก เพชร ประมงและเหมืองแร่ เป็นเมืองสะอาด สวยงามและอยู่ใกล้ประเทศไทยมากที่สุด มีประชากรประมาณ สองล้านกว่าคน มีเมืองหลวง คือเพิร์ธ
6. รัฐควีนสแลนด์ (Queensland) ควีนสแลนด์เป็นรัฐที่มีพื้นที่ใหญ่เป็นอันดับสองของประเทศ ตั้งอยู่ทางฝั่งตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศ ติดกับรัฐนิวเซาท์เวลล์ เป็นรัฐที่มีชื่อเสียงทางด้านการท่องเที่ยว เนื่องจากมีอากาศอบอุ่น ชายหาดขาวสะอาด มีแนวหินปะการังที่มีชื่อเสียงติดอันดับโลก มีหมู่เกาะมากมาย มีประชากรประมาณ สี่ล้านกว่าคน มีเมืองหลวง คือบริสเบน และเมืองท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักสำหรับนักท่องเที่ยว คือโกลด์โคส
มณฑลตอนเหนือ (Northern Territory) ตั้งอยู่ทางตอนเหนือสุดของประเทที่พักศ เป็นถิ่นที่อยู่อาศัยเดิมของชนเผ่าพื้นเมืองอะบอริจิน มีภูมิอากาศแบบร้อนชื้น พื้นที่ส่วนใหญ่สามในสี่ เป็นทะเลทรายที่แห้งแล้ง มีประชากรประมาณ สองแสนกว่าคนส่วนใหญ่อาศัยอยู่ในเมืองหลวงคือ ดาร์วิน ซึ่งเป็นเมืองที่มีขนาดเล็กแต่สะดวกสบาย และเนื่องจากมีพื้นที่ที่อยู่ใกล้กับประเทศในแถบเอเชียทำให้ได้รับอิทธิพลจากประเทศในแถบเอเชียและอินโดนีเซีย ซึ่งจะพบเห็นร้านอาหารและร้านค้าขายของที่เป็นสินค้าชาวเอเชียอยู่มาก
มณฑลนครหลวงออสเตรเลีย (Australian Capital Territory) เป็นที่ตั้งของเมืองหลวงของประเทศ คือแคนเบอร์ร่า ซึ่งเป็นศูนย์กลางทางด้านการปกครอง เป็นที่ตั้งของสถานทูตของประเทศต่างๆ และองค์กรในระดับนานาชาติ มีการวางผังเมืองที่ดีเยี่ยม ลักษณะเมืองมีความทันสมัย มีประชากรประมาณ สามแสนกว่าคน มณฑลนครหลวงออสเตรเลียเป็นมณฑลที่มีขนาดเล็กที่สุด เป็นเมืองใหม่ที่สุด และไม่มีดินแดนที่ติดทะเลหรือชายหาด
สภาพภูมิอากาศ
สภาพภูมิอากาศของประเทศออสเตรเลียมีลักษณะที่แตกต่างกันในแต่ละรัฐ โดยในทางตอนเหนือจะมีอากาศร้อนเนื่องจากอยู่ใกล้เส้นศูนย์สูตร ส่วนในทางตอนใต้จะมีอากาศเย็นเนื่องจากอยู่ใกล้กับขั้วโลกใต้ โดยฤดูกาลของประเทศแบ่งเป็น สี่ฤดู ดังนี้
ฤดูใบไม้ผลิ จะอยู่ในช่วงเดือน กันยายน พฤศจิกายน
ฤดูร้อน จะอยู่ในช่วงเดือน ธันวาคม กุมภาพันธ์
ฤดูใบไม้ร่วง จะอยู่ในช่วงเดือน มีนาคม พฤษภาคม
ฤดูหนาว จะอยู่ในช่วงเดือน มิถุนายน สิงหาคม
ระบบการศึกษา
ระบบการศึกษาของประเทศออสเตรเลีย โดยปกติจะแบ่งเป็น 2 ภาคการศึกษา
ภาคการศึกษาที่ 1 จะเริ่มในเดือน กุมภาพันธ์ มิถุนายน
ภาคการศึกษาที่ 2 จะเริ่มในเดือน กรกฎาคม พฤศจิกายน
ในบางสถาบันอาจจะจัดทำหลักสูตรเป็น 3 ภาคการศึกษา
ภาคการศึกษาที่ 1 จะเริ่มในเดือน มกราคม เมษายน
ภาคการศึกษาที่ 2 จะเริ่มในเดือน พฤษภาคม สิงหาคม
ภาคการศึกษาที่ 3 จะเริ่มในเดือน กันยายน พฤศจิกายน
การศึกษาของประเทศออสเตรเลีย
1. การศึกษาระดับประถมศึกษาและมัธยมศึกษา
การจัดการศึกษาระดับประถมศึกษาและมัธยมศึกษาจะอยู่ในความรับผิดชอบของในแต่ละรัฐ ซึ่งมีทั้งที่สถาบันการศึกษาของเอกชนและของรัฐบาล แต่มีระบบการศึกษาและหลักสูตรเหมือนกัน นักเรียนชั้นประถมศึกษาต้องมีอายุ ตั้งแต่ 6 11 หรือ 12 ปี โดยเรียนในชั้นปีที่ 1 6 ส่วนนักเรียนมัธยมต้องมีอายุ ตั้งแต่ 11 16 ปี โดยเรียนในชั้นปี 7 10 หลังจากนั้นสามารถเลือกเรียนต่อในชั้นมัธยมปลายสำหรับนักเรียนที่ต้องการเรียนต่อในระดับอุดมศึกษา หรือจะเลือกเรียนต่อในระดับอาชีวศึกษาสำหรับนักเรียนที่ต้องการนำไปใช้ในการประกอบอาชีพหรือพัฒนาทักษะเฉพาะตัว
2. การศึกษาระดับอาชีวศึกษาและการฝึกอบรม
สถาบันการศึกษาและฝึกอบรม เป็นสถาบันการศึกษาที่ได้รับการยอมรับในสถานประกอบการต่างๆ ซึ่งหลักสูตรส่วนใหญ่เน้นการปฏิบัติมากกว่าทฤษฎี โดยคุณวุฒิที่ได้สามารถนำไปประกอบวิชาชีพได้ หรือเพื่อใช้ในการศึกษาต่อ โดยมีหลักสูตรที่หลากหลายและได้รับความร่วมมือจากภาคอุตสาหกรรมและตลาดแรงงาน ซึ่งหลักสูตรต่างๆเหล่านี้เปิดสอนโดยสถาบันการศึกษาของรัฐบาลและเอกชน โดยมีหลักสูตรตั้งแต่ 6 เดือน จนถึง 3 ปี
3. การศึกษาระดับอุดมศึกษา
การศึกษาระดับอุดมศึกษาเป็นการศึกษาในมหาวิทยาลัยหรือวิทยาลัย ปัจจุบันประเทศออสเตรเลียมีมหาวิทยาลัยทั้งหมด 40 แห่ง เป็นมหาวิทยาลัยรัฐบาล 38 แห่งและ เป็นมหาวิทยาลัยเอกชน 2 แห่ง ซึ่งได้รับการรับรองวิทยฐานะจากรัฐบาลออสเตรเลียเท่าเทียมกัน โดยมหาวิทยาลัยของประเทศออสเตรเลียเปิดสอนหลักสูตรในระดับ ปริญญาตรี ปริญญาโทและปริญญาเอก โดยในบางมหาวิทยาลัยมีเปิดสอนหลักสูตร ประกาศนียบัตรบัณฑิต และอนุปริญญาโทด้วย โดยในแต่ละมหาวิทยาลัยมีการกำหนดคุณสมบัติในการเข้าเรียนแตกต่างกันออกไป แต่ทุกมหาวิทยาลัยไม่มีการสอบเข้าแต่จะดูจากผลการเรียน และผลสอบภาษาอังกฤษ (IELTS/TOEFL) และในบางหลักสูตรอาจจะต้องใช้ประสบการณ์ทำงานเพื่อใช้ในการพิจารณาด้วย
ที่พัก
ที่พักสำหรับนักเรียนนักศึกษาในประเทศออสเตรเลียมีให้เลือกหลายรูปแบบ ซึ่งนักศึกษาสามารถเลือกที่พักได้ตามประเภทต่างๆ ดังนี้
1. ที่พักแบบโฮมสเตย์ เป็นการพักกับครอบครัวชาวออสเตรเลีย โดยปกติทางสถาบันการศึกษาที่นักศึกษาเลือกศึกษาจะเป็นผู้จัดหาให้ ซึ่งจะทำให้นักศึกษาได้เรียนรู้เกี่ยวกับวัฒนธรรมของชาวออสเตรเลีย รวมถึงเป็นการฝึกภาษาโดยเฉพาะนักศึกษาที่เริ่มจากการเรียนภาษาอังกฤษจะทำให้ภาษาอังกฤษพัฒนาได้เร็วขึ้นเพราะการศึกษาส่วนใหญ่จะเป็นการเรียนในห้องเรียน 50 เปอร์เซ็นต์ อีก 50 เปอร์เซ็นต์ เป็นการเรียนจากนอกห้องเรียน
2. ที่พักแบบหอพักภายในมหาวิทยาลัย โดยทั่วไปหอพักนักศึกษาจะมีห้องเดี่ยวเป็นสัดส่วน พร้อมเฟอร์นิเจอร์ที่จำเป็น เช่น โต๊ะเขียนหนังสือ เตียงนอน ตู้เสื้อผ้า ซึ่งโดยปกติจะต้องทำการจองล่วงหน้าเนื่องจากที่พักมักจะมีไม่เพียงพอสำหรับจำนวนนักศึกษา
3. ที่พักนอกมหาวิทยาลัย จะมีลักษณะเป็นอพาร์ทเมนท์หรือบ้านเช่า ซึ่งจะมีทั้งแบบมีเฟอร์นิเจอร์ และไม่มีเฟอร์นิเจอร์ โดยปกติจะต้องมีการเซ็นต์สัญญาสำหรับการเช่าที่พักซึ่งระยะเวลาในการเช่าจะอยู่ระหว่าง 6 เดือน หรือ 12 เดือน โดยค่าเช่าจะขึ้นอยู่กับขนาดที่พัก ที่ตั้งและสิ่งอำนวยความสะดวก